อีกหนึ่งปัญหาที่สร้างความกังวลให้กับพ่อแม่มือใหม่ คือ เมื่อตั้งท้องหรือมีลูกแล้วสามารถดูแลลูกน้อยไปพร้อมกับสัตว์เลี้ยงได้หรือไม่ ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าหลายคนเองก็มีความรักให้กับน้องหมา น้องแมว หรือสัตว์ที่ตนเองเลี้ยงไม่ต่างจากที่มีให้กับลูกน้อย แต่คนรอบข้างโดยเฉพาะผู้ใหญ่ที่นับถือมักจะตักเตือนว่าไม่ควรให้เด็กอยู่กับสัตว์เลี้ยง เพราะเด็กทารกยังมีภูมิคุ้มกันที่ไม่แข็งแรง เชื้อโรคที่ติดมากับสัตว์เลี้ยงอาจฟุ้งกระจายในอากาศ รวมถึงขนที่หลุดร่วงของน้องหมา น้องแมวอาจเข้าไปในระบบหายใจของลูกน้อย ทำให้หนูน้อยป่วยหรือมีอาการหอบหืดได้
แต่ก็ต้องกำจัดความคิดที่ว่ามีลูกแล้วต้องนำสัตว์เลี้ยงไปฝากคนอื่นไปได้แล้ว! เพราะนักวิจัยจาก Japan Environment and Children’s Study (JECS) ได้ทำการศึกษากับเด็กกว่า 66,000 คนในญี่ปุ่น โดยศึกษาเด็กกลุ่มต่าง ๆ และสภาพแวดล้อมที่อยู่อาศัยของพวกเขา พบว่าบ้านที่ปลอดสัตว์เลี้ยงทำให้เด็ก ๆ เป็นโรคภูมิแพ้มากที่สุด
โดยจากกลุ่มเด็กที่ศึกษามีเด็ก ๆ ถึง 22% ที่ได้สัมผัสใกล้ชิดกับหมาหรือแมว (หรือทั้งคู่) ตั้งแต่ยังอยู่ในครรภ์ และเด็ก ๆ กลุ่มนี้ยังมีความเสี่ยงต่อการแพ้อาหารลดลงจนถึงอายุ 3 ขวบอย่างมีนัยสำคัญ โดยกลุ่มเด็กที่มีการสัมผัสใกล้ชิดกับสุนัขที่เลี้ยงในบ้านพบว่าเกิดอาการแพ้นม ไข่ และถั่วลดลง ส่วนกลุ่มเด็ก ๆ ที่มีการสัมผัสกับใกล้ชิดกับแมวที่เลี้ยงในบ้านจะพบว่าเกิดอาการแพ้ไข่ ถั่วเหลือง และข้าวสาลีลดลง
และนี่ไม่ใช่การศึกษาเพียงอย่างเดียวที่ชี้ให้เห็นว่าสัตว์เลี้ยงมีผลในการป้องกันโรคภูมิแพ้ในทารกและเด็ก ยังมีการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งที่สำรวจความเชื่อมโยงระหว่างเด็กที่เลี้ยงสุนัขกับการลดลงของอาการแพ้ไข่เมื่ออายุหนึ่งขวบ และการศึกษาอีกชิ้นหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่าโอกาสการแพ้อาหารสำหรับทารกที่อาศัยอยู่กับสุนัขลดลงได้ถึง 90%
การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกประเภท สามารถลดอาการแพ้อาหารในเด็กได้ ใช่หรือไม่?
คำตอบ คือ ไม่ใช่ เพราะจากผลการศึกษากลับพบว่าไม่ใช่การเลี้ยงสัตว์เลี้ยงทุกสายพันธุ์ที่จะส่งผลดีต่ออาการแพ้อาหารของทารก และยังมีการค้นพบผลลัพธ์ที่น่าประหลาดใจ เช่น เด็กที่สัมผัสกับแฮมเตอร์อาจมีโอกาสในการเกิดอาการแพ้ถั่วมากกว่าเด็กทั่วไป โดยนักวิจัยคาดเดาว่าสาเหตุน่าจะมาจากฝุ่นที่ฟุ้งกระจายอยู่ในบ้าน และจากการศึกษานี้ยังให้ข้อสรุปเพิ่มเติมอีกด้วยว่าความสัมพันธ์ระหว่างการสัมผัสใกล้ชิดกับสัตว์เลี้ยงในบ้านและอาการแพ้อาหารในอนาคตขึ้นอยู่กับสายพันธุ์ของสัตว์เลี้ยงและชนิดของอาหารด้วย
ทำไมการอยู่ร่วมกับสุนัขหรือสัตว์เลี้ยงในบ้านถึงมีผลเกี่ยวข้องกับอาการแพ้อาหารในเด็ก?
Dan Jacobson กุมารแพทย์ในเมืองชิคาโก รัฐอิลลินอยส์ ให้ข้อมูลว่าการอยู่ร่วมกับสัตว์เลี้ยงจะทำให้ทั้งพ่อแม่และลูก ได้รับจุลินทรีย์หลายชนิดที่ปกติอาจไม่อยู่ในบ้านของเรา รวมถึงการสูดดมสะเก็ดผิวหนัง สัมผัสขนและผิวหนังของสุนัขและแมว มีแนวโน้มที่จะช่วยเสริมระบบภูมิคุ้มกันของคุณแม่ ซึ่งหากมีการตั้งครรภ์อยู่ ภูมิคุ้มกันนั้นก็จะถูกส่งต่อไปยังทารกได้ง่าย และหากคุณแม่มีการให้นมลูกแม้จะเป็นเพียงระยะเวลาสั้น ๆ การป้องกันนั้นก็จะถูกส่งต่อไปด้วยเช่นกัน
แนวทางการป้องกันภูมิแพ้เพิ่มเติมหากไม่ได้เลี้ยงสัตว์เลี้ยง
เชื่อว่าเมื่อหลายคนได้ยินแบบนี้ ต่อให้ไม่ได้เป็นคุณพ่อคุณแม่ที่เลี้ยงสัตว์เลี้ยงอยู่ก่อนหน้าก็แทบจะอยากหามาเลี้ยงเพื่อให้ลูกน้อยได้สัมผัสใกล้ชิด และปกป้องลูกน้อยจากอาการแพ้อาหารที่เกิดขึ้นได้ แต่ต้องไม่ลืมว่าการเลี้ยงสัตว์เลี้ยงหนึ่งตัวนั้น ก็ต้องใช้การดูแลเอาใจใส่และมีภาระค่าใช้จ่ายไม่ต่างกับการเลี้ยงลูกเพิ่มมาอีกหนึ่งคนเลย และการเสริมภูมิคุ้มกันให้กับลูกน้อยยังมีอีกหลากหลายวิธีให้เลือก
หนึ่งในวิธีที่ง่ายที่สุด คือการให้ลูกน้อยได้รับสารอาหารที่เหมาะสมทั้งจากนมแม่ ซึ่งมีภูมิคุ้มกันตามธรรมชาติที่ร่างกายสร้างขึ้นอยู่ รวมถึงสารอาหารอื่น ๆ ที่ช่วยในเรื่องของการสร้างภูมิคุ้มกัน หนึ่งในนั้น คือ โพรไบโอติก หากเป็นเด็กทารกอาจเลือกนมที่มีส่วนผสมของโพรไบโอติกรวมอยู่ด้วย แต่อย่างไรก็ตามควรเป็นไปตามคำแนะนำของแพทย์หรือผู้เชี่ยวชาญ ส่วนกรณีของเด็กเล็กหรือเด็กโต คุณพ่อคุณแม่สามารถให้พวกเขาได้รับประทานเมนูอาหารที่มีโพรไบโอติกเป็นส่วนประกอบ เช่น โยเกิร์ต หรือกิมจิ เป็นต้น เพียงเท่านี้ก็จะช่วยเพิ่มคุ้มกันและลดการเกิดภูมิแพ้ให้กับลูกน้อยของคุณได้ง่าย ๆ แล้ว
ที่มาข้อมูล: https://journals.plos.org/plosone/article?id=10.1371/journal.pone.0282725#pone.0282725.ref013
https://www.todaysparent.com/baby/exposure-to-pets-protects-against-food-allergies/