Positive Parenting พ่อแม่ยุคใหม่ควรใช้วิธีการเลี้ยงดูอย่างไรให้ลูกมีความสุข

การเลี้ยงลูกให้เติบโตอย่างมีความสุข ไม่ได้ขึ้นอยู่แค่กับการสอนให้เก่งหรือเชื่อฟังเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่มั่นคงและอบอุ่นระหว่างพ่อแม่กับลูกด้วย แนวคิดการเลี้ยงลูกเชิงบวก (Positive Parenting) จึงเป็นทางเลือกที่หลายครอบครัวหันมาให้ความสำคัญ เพราะช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัย มั่นใจ และเรียนรู้การเติบโตอย่างสมดุลทั้งด้านอารมณ์และพฤติกรรม

บทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจหลักการของการเลี้ยงลูกเชิงบวก เทคนิคที่นำไปใช้ได้จริงในชีวิตประจำวัน และวิธีสร้างวินัยอย่างอ่อนโยน โดยไม่ใช้การลงโทษ เพื่อให้ทุกบ้านสามารถเป็นพื้นที่แห่งความรัก ความเข้าใจ และการเติบโตที่ดีสำหรับเด็ก

parent taking care of baby

จุดเด่นของ Positive Parenting ที่พ่อแม่ควรเรียนรู้

Positive Parenting คือ การเลี้ยงลูกเชิงบวก คือแนวทางที่เน้นการให้ความรักและการสนับสนุนอย่างเหมาะสมในขณะเดียวกันก็มีการตั้งขอบเขตและวินัยที่ชัดเจน เป็นการเลี้ยงดูที่เคารพในตัวตนของเด็ก ไม่ใช้ความรุนแรง ไม่ดุด่าหรือลงโทษด้วยการทำให้ลูกรู้สึกผิด แต่ใช้การสื่อสารและความเข้าใจเป็นเครื่องมือหลัก ซึ่งมีจุดเด่นในการปฏิบัติ คือ 

  • พ่อแม่สื่อสารกับลูกอย่างใจเย็น
  • ฟังความรู้สึกและความคิดเห็นของลูก
  • ใช้วิธีอธิบายและชวนลูกคิด
  • มีความรักและความสม่ำเสมอในการดูแล
  • ลูกเรียนรู้ที่จะเข้าใจตนเองและผู้อื่น

เทคนิคการเลี้ยงลูกเชิงบวกที่นำไปใช้ได้จริง

แม้ว่าหลาย ๆ คนอาจคุ้นชินการเลี้ยงดูที่เข้มงวด เนื่องจากเชื่อมั่นว่าเป็นวิธีการที่ดีที่สุดสำหรับการปฏิบัติตามกฎระเบียบของสังคม ในทางกลับกันหากการเลี้ยงดูอย่างเคร่งครัดเกินไป อาจสร้างความอึดอัด ไม่สบายใจ จนนำไปสู่ความสัมพันธ์อันกระอักกระอ่วนภายในครอบครัว หรือในเด็กบางคนอาจขาดความเชื่อมั่นในตนเอง ทำให้การเลี้ยงลูกเชิงบวกเป็นอีกหนึ่งวิธีที่น่าสนใจสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ เพื่อให้ลูกเติบโตได้อย่างมีความสุข

  1. ใช้คำพูดที่สร้างกำลังใจ

คำพูดของพ่อแม่มีพลังมหาศาลต่อจิตใจของเด็ก การพูดจาเชิงลบ เช่น การตำหนิ ดูถูก หรือประชดประชัน อาจทำให้ลูกรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองและปิดกั้นการเรียนรู้ แต่หากเปลี่ยนมาใช้คำพูดที่สร้างกำลังใจ จะช่วยส่งเสริมพัฒนาการทางอารมณ์ให้ลูกกล้าแสดงออก มีแรงจูงใจในการพัฒนาตัวเอง และรู้สึกว่าได้รับการยอมรับอย่างไม่มีเงื่อนไข

ตัวอย่างคำพูดเชิงบวก เช่น

  • “แม่เห็นว่าหนูกำลังพยายามอยู่นะ”
  • “หนูทำได้ดีขึ้นมากเลยนะวันนี้”
  • “ไม่เป็นไรเลยลูก ลองใหม่อีกครั้ง แม่เชื่อว่าหนูทำได้”
  1. สื่อสารอย่างเปิดใจ

พ่อแม่และผู้ปกครองใช้การตั้งคำถาม เช่น “หนูคิดว่าวิธีไหนดีสุด?”  แทนการสั่งหรือห้าม เพื่อให้ลูกมีส่วนร่วมในการคิดแก้ปัญหา

  1. กำหนดขอบเขตอย่างเข้าใจ

เด็กยังต้องมีขอบเขตที่ชัดเจน เช่น เวลาเข้านอน เวลาเล่นจอ หรือเวลาทำการบ้าน โดยพ่อแม่ควรอธิบายเหตุผลด้วย ไม่ใช่แค่เพราะแม่บอกให้ทำ

  1. ใช้ช่วงเวลาเชื่อมสัมพันธ์ 

ช่วงเวลาเชื่อมสัมพันธ์ หรือ Connecting Time เป็นกิจกรรมสร้างสรรค์ เพื่อสร้างเสริมการมีส่วนร่วมภายในครอบครัว อาจเป็นเวลาเล่านิทานก่อนนอน เล่นของเล่นด้วยกัน หรือพูดคุยกันวันละ 10 นาทีโดยไม่มีจอ ซึ่งจะช่วยให้เด็กรู้สึกปลอดภัยและกล้าเปิดใจ ซึ่งสามารถใช้สิ่งของเป็นเครื่องมือสำหรับการเลี้ยงลูกเชิงบวก  เช่น

  • หนังสือนิทาน
  • ของเล่นเสริมพัฒนาการ
  • ชุดโต๊ะกิจกรรม

จาก Punnita ที่ออกแบบเพื่อให้ลูกน้อยสามารถมีช่วงเวลาอันน่าจดจำกับครอบครัวของตนเองด้วยกิจกรรมแสนสนุกที่ลูกน้อยจะชื่นชอบ

happy kids with parent

ประโยชน์ของการเลี้ยงลูกเชิงบวก

  • เสริมสร้างความมั่นใจในตัวเองให้ลูก

เด็กที่ได้รับการเลี้ยงดูด้วยความเข้าใจและกำลังใจจากพ่อแม่ เขาจะรู้สึกมีคุณค่าและกล้าแสดงออกโดยไม่กลัวความผิดพลาด การใช้คำพูดเชิงบวก เช่น การชมความพยายามหรือให้ลูกมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ ช่วยให้เขารู้ว่า “ฉันทำได้” ซึ่งส่งผลต่อความมั่นใจและทัศนคติที่ดีต่อตัวเองในระยะยาว

เด็กที่เติบโตในสภาพแวดล้อมเชิงบวกจะกล้าเผชิญปัญหา มีความยืดหยุ่นทางอารมณ์ และสามารถพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้น

  • ลูกสามารถควบคุมอารมณ์และเข้าใจผู้อื่นได้ดี

การเลี้ยงดูเชิงบวกช่วยให้เด็กเรียนรู้ที่จะรู้จักและยอมรับอารมณ์ของตัวเองอย่างไม่ตัดสิน เมื่อพ่อแม่รับฟังอย่างเข้าใจและไม่ดุหรือตำหนิ ลูกจะค่อยๆ เรียนรู้วิธีจัดการกับความโกรธ เศร้า หรือผิดหวังได้อย่างเหมาะสม พร้อมทั้งซึมซับทักษะการเห็นอกเห็นใจผู้อื่น ผ่านแบบอย่างจากพ่อแม่ในชีวิตประจำวัน

  • ลดปัญหาพฤติกรรมก้าวร้าวหรือดื้อ

เมื่อเด็กได้รับการเลี้ยงดูด้วยความเข้าใจและสื่อสารอย่างเปิดใจ พวกเขาจะรู้สึกปลอดภัยและเป็นที่ยอมรับ ส่งผลให้ไม่จำเป็นต้องแสดงพฤติกรรมต่อต้านหรือเรียกร้องความสนใจผ่านความดื้อหรือก้าวร้าว

  • ความสัมพันธ์ในครอบครัวแน่นแฟ้นขึ้น

การเลี้ยงลูกเชิงบวกช่วยให้พ่อแม่และลูกสื่อสารกันด้วยความเข้าใจและไว้วางใจ ลดความขัดแย้งในบ้าน เมื่อลูกรู้ว่าพ่อแม่รับฟังและสนับสนุนจะทำให้ครอบครัวเป็นพื้นที่ปลอดภัยทางใจสำหรับทุกคน เนื่องจากมีความผูกพันที่แน่นแฟ้นมากยิ่งขึ้น

  • เด็กเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีทักษะทางสังคมและเห็นคุณค่าของตนเอง

การเคารพในความรู้สึกช่วยให้เด็กเรียนรู้วิธีการสื่อสารอย่างสร้างสรรค์ เห็นคุณค่าในตัวเอง และรู้จักเคารพผู้อื่น ซึ่งเป็นพื้นฐานสำคัญของทักษะทางสังคมเมื่อโตขึ้น

เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจ สร้างรากฐานชีวิตที่มั่นคง

การเลี้ยงลูกเชิงบวกอาจต้องอาศัยความอดทนและความต่อเนื่องในระยะยาว แต่ผลลัพธ์ที่ได้คือความสัมพันธ์ในครอบครัวที่แน่นแฟ้น และลูกที่เติบโตอย่างมีความสุข มีความมั่นใจ เห็นคุณค่าในตัวเอง และพร้อมรับมือกับโลกภายนอกอย่างเข้มแข็ง การสร้างวินัยด้วยความรัก ไม่ใช่ความรุนแรง ซึ่ง Punnita รู้ดีว่าเป็นของขวัญที่ดีที่สุดสำหรับพ่อแม่ยุคใหม่ที่สามารถมอบให้ลูกได้ทุกวัน