หลังจากช่วงลาคลอดผ่านไป เหล่าคุณแม่มือใหม่ที่เป็น working mom ทุกท่าน ก็ได้เวลากลับไปทำงานกันอีกครั้ง แต่การมีลูกทำให้ทุก ๆ อย่างในชีวิตประจำวันของเหล่าคุณแม่เปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง ดังนั้นการกลับไปทำงานหลังจากคลอดบุตรจึงเป็นอะไรที่ไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป คุณแม่ที่กลับไปทำงานหลังคลอดเองก็ต้องปรับตัวกันยกใหญ่ รวมถึงความวิตกกังวลในเรื่องที่ต้องฝากลูกไว้ให้คนอื่นดูแล และต้องแยกจากลูกหลังจากอยู่ด้วยกันเป็นเวลานาน อีกทั้งในช่วงนี้ยังเป็นช่วงที่ยังคงต้องให้นมบุตรหากจะต้องออกไปทำงานข้างนอก การเตรียมตัวให้พร้อมในเรื่องของการปั๊มนมเองก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมาก ดังนั้นในวันนี้ร้าน Punnita ร้านขายอุปกรณ์และสินค้าเกี่ยวกับแม่และเด็กอย่างครบวงจร จะขอเสนอ tips เล็ก ๆ น้อย ๆ เพื่อให้คุณแม่หลังคลอดได้เตรียมตัวเตรียมใจให้ดีก่อนกลับไปทำงานอีกครั้ง
เตรียมอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อมก่อนออกไปทำงาน
อย่างที่ทราบกันว่าคุณแม่หลังคลอดมีอุปกรณ์จำเป็นเยอะมาก ๆ ทั้งอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับลูกน้อยและอุปกรณ์ที่จำเป็นสำหรับตัวของคุณแม่เอง เช่น อุปกรณ์ในการปั๊มนม และในช่วงแรกของการ กลับไปทำงานอยู่ในช่วงที่ยังต้องให้นม ทำให้การกลับไปทำงานหลังลาคลอดนี้มีของที่ต้องเตรียมไปทำงานด้วยเยอะมาก ๆ นอกจากนี้การฝากลูกไว้ให้คนอื่นช่วยดูแลยังทำให้คุณแม่เป็นกังวลจึงอาจจะต้องมีเครื่องมือหรืออุปกรณ์ที่สามารถช่วยให้คุณแม่คลายความกังวลในยามที่อยู่ไกลกับลูกได้อีกด้วย มาดูกันว่ามีอุปกรณ์อะไรบ้างที่จำเป็นสำหรับคุณแม่ที่ต้องกลับไปทำงาน
- เครื่องปั๊มนม (คำแนะนำเพิ่มเติม: ควรเลือกซื้อเครื่องที่มีน้ำหนักเบาจะได้พกพาไปที่ทำงานได้สะดวก รวมถึงเลือกรุ่นที่มีเสียงการทำงานเงียบจะได้ไม่ส่งเสียงรบกวนในที่ทำงาน)
- ผ้าคลุมให้นม
- ถุงเก็บน้ำนมแม่
- กระเป๋าเก็บเครื่องปั๊มนม
- กระเป๋าเก็บอุณหภูมิสำหรับเก็บนม
- Baby monitor หรือกล้องวงจรปิด
ทริคการทำสต๊อกน้ำนมให้ลูกน้อยก่อนออกไปทำงาน
การปั๊มนมเพื่อทำสต๊อกน้ำนมก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งจำเป็นที่เหล่าคุณแม่ที่กำลังจะกลับไปทำงานต้องทำ ซึ่งจริง ๆ แล้วการทำสต๊อกน้ำนมสามารถฝึกทำได้ตั้งแต่หนึ่งสัปดาห์หลังคลอดได้เลย เพราะนอกจากจะทำให้ลูกมีนมแม่สำหรับดื่มอย่างเพียงพอแล้ว ยังเป็นการกระตุ้นการสร้างน้ำนมที่ดีอีกด้วย
ในช่วงสัปดาห์แรกหลังคลอด ให้เริ่มปั๊มเก็บน้ำนมไว้ได้เลยโดยช่วงเวลาหลังตื่นนอนเป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด เพราะคุณแม่จะรู้สึกคัดเต้าและผลิตน้ำนมออกมาได้เยอะ โดยวิธีกระตุ้นน้ำนมอาจจะเป็นการเอาลูกเข้าเต้าหนึ่งข้างและปั๊มน้ำนมจากอีกข้างเก็บเอาไว้ ส่วนในกรณีที่ลูกไม่อิ่มก็ให้เอาเข้าเต้าทั้งสองข้าง เมื่อลูกอิ่มแล้วก็ใช้เครื่องปั๊มนมกระตุ้น 3-5 นาทีและปั๊มนมให้เกลี้ยงเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนม หลังจากนั้นเมื่อครบ 1 เดือนควรเอาลูกเข้าเต้าทุก ๆ 2-3 ชั่วโมงเพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมและมีนมสต๊อกเก็บไว้เยอะ ๆ ทั้งนี้ทั้งนั้นการพักผ่อนที่เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ และดื่มน้ำเยอะ ๆ ก็จะช่วยให้ร่างกายของคุณแม่ผลิตน้ำนมได้มากขึ้น
และเมื่อถึงเวลาที่กลับไปทำงานน้ำนมที่ทำสต๊อกไว้เหล่านี้ก็จะเป็นประโยชน์อย่างมาก ข้อแนะนำ คือ เมื่อคุณแม่ได้กลับไปทำงานแล้วในช่วงเวลาที่อยู่บ้านให้ลูกเข้าเต้าแทนการดื่มจากขวดจะดีที่สุด จะได้ช่วยคุณแม่ในการกระตุ้นน้ำนมและช่วยไม่ให้ลูกน้อยมีพฤติกรรมติดขวดนม ส่วนในระหว่างที่คุณแม่ต้องไปทำงานการใช้เครื่องปั๊มนมทุก ๆ 3 ชั่วโมง เพื่อกระตุ้นการสร้างน้ำนมและเป็นการทำสต๊อกน้ำนมเก็บไว้ให้ลูกก็เป็นเรื่องที่จำเป็นมากเหมือนกันหากอยากให้ลูกได้ดื่มนมแม่อย่างสม่ำเสมอ
ทริคเตรียมใจสำหรับการห่างลูกน้อยไปทำงาน
เมื่อต้องกลับไปทำงานและห่างจากลูกน้อย คุณแม่จะเกิดสิ่งที่เรียกว่า ‘mum guilt’ หรือความรู้สึกผิดที่ต้องทอดทิ้งลูกน้อยไว้และออกไปทำงานหาเงิน ความรู้สึกนี้ต้องโยนทิ้งไปให้ไวเพราะเมื่อผู้เป็นแม่รู้สึกเช่นนี้ จะส่งผลต่อความเครียด ความเศร้า และความวิตกกังวลอื่น ๆ ที่จะตามมาในไม่ช้า และสิ่งหนึ่งที่จะได้รับผลกระทบแน่นอน คือ การผลิตน้ำนมให้ลูกน้อย เพราะเมื่อไหร่ที่ผู้เป็นแม่มีความกังวลหรือความเครียด สารเคมีในร่างกายจะส่งผลให้การผลิตน้ำนมของคุณแม่ลดลงทันที นอกจากนี้ในแง่ของการทำงาน ก็อาจจะทำให้ทำงานได้ไม่เต็มที่และรู้สึกแย่กับบรรยากาศในที่ทำงาน จนเกิดผลกระทบอื่น ๆ ตามมา เพราะฉะนั้นทางออกที่ดีที่สุด คือ มองโลกในแง่ดีและเชื่อมั่นในตนเองอยู่เสมอว่าคุณแม่กำลังทำสิ่งที่ดีที่สุดให้กับลูกน้อยและครอบครัวอยู่