อารมณ์แปรปรวนเป็นภาวะที่เกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์ทุกท่าน โดยภาวะนี้อาจเกิดขึ้นจากการเปลี่ยนแปลงของระดับฮอร์โมน ความวิตกกังวลกับเรื่องรอบ ๆ ตัว รวมทั้งสภาพร่างกายและจิตใจที่เปลี่ยนแปลงไป และเช่นเดียวกันกับหลังคลอด คุณแม่หลาย ๆ ท่านก็ยังอาจต้องเผชิญกับสภาวะอารมณ์ที่แปรปรวนและเปลี่ยนแปลงง่ายเช่นเดียวกับตอนที่ตั้งครรภ์ อย่างไรก็ตาม ภาวะทางอารมณ์นี้อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและความสัมพันธ์กับบุคคลต่าง ๆ รอบตัวได้ ดังนั้น คุณแม่จึงไม่ควรมองข้ามภาวะอารมณ์เหล่านี้ แต่ควรรู้เท่าทันความเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้นและเรียนรู้วิธีการจัดการและรับมือกับปัญหาดังกล่าวอย่างถูกวิธี
5 สาเหตุหลักที่ทำให้แม่ลูกอ่อน อารมณ์แปรปรวน
-
ความเหนื่อยล้า
ช่วงหลังคลอดถือเป็นช่วงรับน้องสำหรับคุณแม่ทุกท่าน เนื่องจากลูกน้อยมักจะร้องกินนมทุก ๆ 2-3 ชั่วโมง และการกินนมแต่ละครั้งก็ต้องใช้เวลาพอสมควร โดยเฉลี่ยแล้วประมาณ 20-30 นาที/ครั้ง บ่อยถึง 8-12 ครั้ง/วัน ทำให้คุณแม่มีอาการเพลีย เหนื่อยล้า และไม่แปลกที่จะมีอารมณ์เหวี่ยงวีนได้
-
ความวิตกกังวล
อาการวิตกกังวลหลังคลอดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ทุกคน โดยเฉพาะเมื่อมีสิ่งผิดปกติเกิดขึ้นกับลูกน้อย เช่น กลัวว่าลูกจะไม่สบาย กลัวว่าลูกจะกินไม่อิ่ม จึงทำให้เกิดเป็นภาวะวิตกกังวลจนส่งผลต่อความสุขและทำให้อารมณ์ของคุณแม่เปลี่ยนแปลงได้ง่าย ๆ
-
รูปร่างที่เปลี่ยนไป
รูปร่างที่เปลี่ยนแปลงเป็นปัญหาสำคัญของคุณแม่ตั้งครรภ์และคุณแม่ลูกอ่อนเกือบทุกคน จากที่เคยร่างบาง ทรวดทรงองค์เอวชัดเจน ก็กลับมีไขมันมาพอกตามร่างกายจนทำให้รูปร่างเปลี่ยนแปลงไปอย่างเห็นได้ชัด และอาจส่งผลให้คุณแม่รู้สึกหงุดหงิดได้
-
ฮอร์โมน
อีกหนึ่งสาเหตุที่คุณแม่หลังคลอดทุกคนเลี่ยงไม่ได้เลยก็คือ การลดลงของฮอร์โมนเอสโตรเจนและโปรเจสเตอโรนอย่างรวดเร็ว ส่งผลให้คุณแม่รู้สึกสับสน อารมณ์ขึ้น ๆ ลง ๆ ไปจนถึงมีภาวะซึมเศร้าหลังคลอดได้ ซึ่งโดยปกติแล้วอาการจะดีขึ้นเองเมื่อฮอร์โมนในร่างกายคุณแม่เริ่มกลับสู่ภาวะปกติ
-
สภาพร่างกาย
ไม่ว่าจะคลอดธรรมชาติหรือผ่าคลอด คุณแม่มักจะต้องประสบกับความเจ็บปวดไม่ต่างกัน ยิ่งพอหลังคลอด คุณแม่ลูกอ่อนบางรายยังอาจต้องเจอกับปัญหาผมร่วง ผื่นแพ้หลังคลอด ไม่แปลกเลยที่คุณแม่มักจะมีอารมณ์ฉุนเฉียว หงุดหงิดง่าย
5 วิธีรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวนหลังคลอด
-
พักผ่อนต้องมาก่อน
คุณแม่ที่มีลูกหลับง่าย นอนนานถือว่าโชคดีมาก ๆ แต่สำหรับคุณแม่ที่มีลูกนอนหลับยาก นอนน้อย ช่วงเวลาที่ลูกนอนหลับคือโอกาสทองของคุณแม่ ซึ่งคุณแม่ควรวางงานอื่นอย่างการทำงานบ้านไว้ก่อน และพักผ่อนให้ได้มากที่สุด
-
เปลี่ยนบรรยากาศบ้าง
สำหรับคุณแม่ลูกอ่อนที่ต้องเลี้ยงลูกอยู่บ้านคนเดียว หากมีเวลาว่าง มีคนพอที่จะฝากลูกไว้ได้ หรือคุณพ่อกลับมาจากทำงานแล้ว ก็อาจชวนกันไปเปลี่ยนบรรยากาศ ขับรถเล่นเพลิน ๆ เดินห้าง หรือพากันไปเดินเล่นที่สวนสาธารณะก็จะช่วยให้คุณแม่สดชื่นขึ้นได้
-
ฝึกปล่อยวาง
เรื่องอะไรก็ตามที่ยังค้างคาใจหรือเป็นกังวลอยู่ คุณแม่ต้องหาวิธีจัดการหรือลำดับความสำคัญของงานให้เหมาะสม อาจลองจดสิ่งที่ต้องทำหรือเขียนระบายสิ่งที่เป็นกังวลลงในกระดาษ และพึงตระหนักว่าเราไม่สามารถทำทุกอย่างได้ทั้งหมดคนเดียว จะได้ไม่เป็นการกดดันตนเองมากเกินไป
-
หาคนช่วยเลี้ยงลูก
หากไม่ไหวจริง ๆ หรือรู้สึกเหนื่อยจนแทบหมดแรง อย่ากลัวหรือรู้สึกเกรงใจที่ต้องขอความช่วยเหลือ ไม่ว่าจะเป็นปู่ ย่า ตา ยาย หรือญาติพี่น้อง อาจขอให้สลับสับเปลี่ยนเพื่อช่วยเลี้ยงลูกเป็นเวลาสั้น ๆ พอที่คุณแม่จะปลีกตัวไปทำอย่างอื่นบ้างก็จะช่วยได้มาก
-
ปรึกษาแพทย์
หากมีอาการอารมณ์แปรปรวนอย่างรุนแรง หรือมีอาการดังกล่าวเกิน 6 เดือน คุณแม่ควรขอคำปรึกษาจากแพทย์เพื่อรับคำแนะนำเกี่ยวกับการบำบัดหรือการรักษาที่เหมาะสม และควรให้ความร่วมมือในการรักษาและใช้ยาตามคำแนะนำของแพทย์อย่างเคร่งครัด
ความเครียดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับคุณแม่ตั้งครรภ์และแม่ลูกอ่อน การรู้เท่าทันความเครียดและอารมณ์ที่แปรปรวนล่วงหน้าจะช่วยให้คุณแม่สามารถเตรียมตัวเตรียมใจรับมือกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นได้ รวมถึงควรมีการพูดคุยกับคุณพ่อหรือบุคคลใกล้ชิดไว้ล่วงหน้าเพื่อไม่ให้ปัญหานี้ส่งผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างกัน และช่วยกันฝ่าฟัน ให้กำลังใจซึ่งกันและกันให้ผ่านพ้นช่วงเวลานี้ไปได้
ดูสินค้าแม่และเด็กเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.punnita.com