เปิดศักราชใหม่ สำหรับคุณพ่อแม่ท่านไหนที่กำลังมองหารถเข็นเด็กใช้ดีให้ลูกอยู่ล่ะก็ ไม่ควรพลาด เพราะแอดมิน Punnita จะพาไปดูว่า ปี 2567 หรือ 2024 นี้ รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนดี เทรนด์ไหนมาแรง รวบรวมคัดกรองด้วยความแรงต่อเนื่องมาจากปี 2566 ยาวมาจนถึงปี 2567 กันเลยทีเดียว รวมไปถึงคุณพ่อแม่มือใหม่ อาจไม่รู้ว่ารถเข็นมีกี่แบบกี่ประเภท แล้วควรเลือกแบบไหนดี พร้อมกับทริคเด็ดๆ ในการเลือกซื้อรถเข็น เพื่อจะได้รถเข็นที่ดีที่สุดสำหรับเรา เรียกว่าอ่านจบบรรลุเรื่องรถเข็นกันเลยค่า
เอาล่ะ ก่อนจะไปดูว่ารถเข็นเด็กใช้ดี 2024 นั้นมีอะไรบ้าง เรามาทำความรู้จักกันก่อนว่ารถเข็นเด็กนั้นมีกี่แบบ กี่ประเภท แต่ละแบบ ดียังไง จะได้เลือกให้ตรงกับไลฟ์สไตล์ของเรา
1.รถเข็นประเภทพับเล็ก น้ำหนักเบา
รถเข็นประเภทพับเล็ก น้ำหนักเบาจะค่อนข้างเหมาะกับสายทัวร์ สายเที่ยว สายพริ้ว เพราะตัวรถเข็นนั้นจะมีน้ำหนักค่อนข้างเบา พับง่าย พกพาก็สะดวก คุณแม่คนเดียวก็สามารถจัดการได้สบายๆ รถเข็นประเภทนี้ยังแบ่งย่อยได้อีก 3 แบบ ซึ่งต้องพิจารณาอีกทีว่าแบบไหนตอบโจทย์กับที่เราต้องการที่สุด เพราะแต่ละแบบก็มีข้อดีแตกต่างกัน
1.1 แบบพับเล็ก พกพาสะดวก น้ำหนักเบา
ข้อดี : พับเล็กมากๆ น้ำหนักเบา ประหยัดพื้นที่ จัดเก็บง่าย พกพาสะดวก
ข้อเสีย : เอนนอนไม่ได้ ขนาดเล็กอาจมีข้อจำกัดด้านสรีระ ใช้งานได้แค่ช่วงอายุระดับหนึ่ง
1.2 แบบพับเล็ก เก็บง่าย น้ำหนักเบา เข็นได้สองทิศทาง
ข้อดี : พับเล็ก น้ำหนักเบา เก็บง่าย พกพาสะดวก เข็นได้สองทิศทางทั้งหันหน้าเข้าและหันหน้าออก พับเอนนอนได้ ปลอดภัยสำหรับเด็กวัยทารก
ข้อเสีย : –
1.3 พับเล็ก น้ำหนักเบา เข็นได้ทิศทางเดียว
ข้อดี : พับเล็ก น้ำหนักเบา เก็บง่าย พกพาสะดวก พับเอนนอนได้
ข้อเสีย : อาจไม่ถือว่าเป็นข้อเสีย เพียงแค่มีข้อจำกัดคือเข็น คือเข็นได้ทิศทางเดียว ไม่สามารถเข็นแบบให้ลูกหันหน้ามาฝั่งคนเข็นได้
2.รถเข็นประเภทคันใหญ่
รถเข็นประเภทคันใหญ่นั้น ดูสวยงาม ดุดัน สมาร์ท แข็งแรง ทนทาน ด้วยรูปลักษณ์ที่ใหญ่ และล้อค่อนข้างใหญ่ ถ่ายรูปคู่กับลูกออกมาก็ดูสวยเท่ ทำให้คุณพ่อแม่หลายๆ ท่านถูกใจ จึงเป็นรถเข็นอีก 1 แบบที่คุณพ่อแม่หลายๆ ท่านเทใจให้
ข้อดี : คันใหญ่ แข็งแรง ทนทาน ใช้งานได้ยาวนาน สายลุยเส้นทางขรุขระก็ไม่หวั่น
ข้อเสีย : ค่อนข้างหนัก พับแล้วค่อนข้างใหญ่ เปลืองพื้นที่ในการจัดเก็บ คุณแม่คนเดียวไม่สามารถยกรถเข็นขึ้นหรือลงเวลาเดินทางได้ พกพาค่อนข้างลำบาก
3.ประเภทเป็นรถเข็นและกระเช้าคาร์ซีทในตัว
รถเข็นประเภทเป็นได้ทั้งรถเข็น เป็นได้ทั้งกระเช้าคาร์ซีท เรียกว่า 2 in 1 สำหรับประเภทนี้ถือว่าสะดวกมากๆ เพราะคุณพ่อแม่ซื้อครั้งเดียว ได้ทั้งรถเข็นและคาร์ซีทจบในตัวเดียว จุดเด่นรุ่นนี้คือความสะดวกที่รถเข็นหรือคาร์ซีทรุ่นอื่นๆ ไม่มี เช่น คุณแม่เพิ่งคลอดที่โรงพยาบาล คุณพ่อสามารถนำกระเช้าคาร์ซีทไปรับและให้ลูกนอนในกระเช้าได้เลย ออกจากโรงพยาบาลสามารถกางล้อลงมาเป็นรถเข็นได้ทันที โดยไม่ต้องไปรบกวนการนอนของทารก
ข้อดี : สะดวก สบาย ใช้งานง่าย ซื้อ1 ได้ถึง 2 (รถเข็น/กระเช้าคาร์ซีท) ใช้เป็นรถเข็นก็ได้ ใช้เป็นคาร์ซีทก็ได้ ไม่กระทบการนอนของทารก
ข้อเสีย : ใช้งานได้แค่ช่วงอายุระดับหนึ่งเท่านั้น หากมีเด็กนอนอยู่ในกระเช้าคาร์ซีทและคุณแม่ต้องเป็นคนหิ้ว ด้วยน้ำหนักที่เยอะอาจสร้างภาระให้คุณแม่ไม่น้อย ค่อนข้างเปลืองงบ กล่าวคือเมื่อถึงอายุระดับหนึ่งที่เด็กโตกว่ากระเช้า คุณพ่อแม่ต้องหาซื้อรถเข็นคันใหม่ที่ใหญ่ขึ้น (รวมถึงคาร์ซีทใหม่ด้วย)
4.รถเข็นเซ็ต สามารถรองรับกับกระเช้าคาร์ซีทได้
รถเข็นเซ็ต เป็นรถเข็นที่มาพร้อมกับตัวของกระเช้า ซึ่งจะใส่ได้พอดีกับตัวรถเข็น (อาจมาด้วยกันหรือจำหน่ายแยก ขึ้นอยู่กับผู้ผลิตแต่ละแบรนด์)
ซึ่งจะมีข้อได้เปรียบด้านความสะดวกสบาย เช่น คุณพ่อสามารถหิ้วกระเช้าไปรับลูกที่โรงพยาบาล จากนั้นนำกระเช้าวางในรถเข็นแล้วเข็นไปที่รถได้เลย เมื่อถึงรถแล้วยกกระเช้าออกไปติดตั้งเป็นคาร์ซีท โดยที่ไม่ไปรบกวนการนอนของเจ้าตัวเล็กเลยแม้แต่น้อย
ข้อดี : สะดวก สบาย ใช้งานง่าย ไม่รบกวนการนอนของทารก
ข้อเสีย : ด้วยความที่เป็นเซ็ต ราคาอาจค่อนข้างสูง เฉพาะตัวกระเช้าคาร์ซีทอาจใช้ได้แค่ช่วงอายุระดับหนึ่งเท่านั้น เมื่อเด็กโตกว่ากระเช้า คุณพ่อแม่จะต้องหาซื้อคาร์ซีทตัวใหม่เพื่อรองรับให้พอดีกับตัวเด็ก จึงอาจค่อนข้างใช้งบประมาณพอสมควร
และแล้วก็มาถึงไฮไลต์ของงาน รถเข็นเด็กยี่ห้อไหนใช้ดี ดาวเด่น ตัวท็อป รุ่นดัง คัดมาให้เน้นๆ รับรองไม่ผิดหวัง ไปดูกันเลยค่า
-
Anex IQ
-
Anex Air – z
-
Seec Lollipop2
-
Babyzen yoyo2
-
Nuna Trvl
-
Joie Stroller SMA Baggi 4WD Drift
-
joie litetrax
-
Doona Infant Car Seat – Stroller
-
Nuna Stroller Mixx Next
-
Joie Travel System Muze
-
Cooper All New Classic
ผ่านไปแล้วค่า กับรถเข็นเด็กใช้ดีที่แนะนำ ใครชอบรุ่นไหนก็ลองทักสอบถามแอดมินกันได้เลยน๊า
แต่ยังค่า… ยังไม่จบ แถมท้ายอีกนิด
แอดมินมีทริคเด็ดๆ 7 ข้อในการเลือกซื้อรถเข็นเด็กมาฝากด้วย เลือกตามนี้รับรองไม่ผิดหวัง
รู้แล้วบอกต่อๆ คนที่รักได้นะคะ จะได้เลือกกันให้ตอบโจทย์ที่สุดค่า
7 ทริค วิธีเลือกรถเข็นเด็ก
- ความสูงของพนักพิง
ความสูงพนักพิงจะต้องสูง อาจจะพิจารณาเผื่อตอนเด็กสูงขึ้นด้วย หากพนักพิงสั้น เมื่อเด็กโตขึ้นศีรษะเด็กอาจไม่พ้นหลังคา ทำให้เด็กนั่งแล้วอึดอัดได้
- ความลึกของเบาะที่นั่ง
เบาะที่นั่งจะต้องลึกหน่อย เพื่อเด็กจะได้นั่งสบาย เมื่อเด็กโตขึ้นคุณพ่อแม่จะสามารถมั่นใจได้ว่าจะยังคงนั่งได้สบาย หากเบาะสั้นเมื่อเด็กโตขึ้นเด็กอาจนั่งไม่สบายเพราะไม่พอดีก้น และอาจนั่งแล้วลื่นหรือหลุดได้
- ความกว้างของเบาะที่นั่ง
เบาะนั่งจะต้องกว้าง ไม่แคบ เด็กจะนั่งได้สบายไม่อึดอัด อีกทั้งเมื่อเด็กโตขึ้นคุณพ่อแม่จะสามารถมั่นใจได้ว่าจะยังคงนั่งได้สบาย ใช้งานได้ยาวนาน
- ขนาดรถเข็น
ขนาดรถเข็นเป็นอีกอย่างที่ควรพิจารณา ควรเลือกให้ตรงกับความต้องการในการใช้งาน จะเลือกแบบคันเล็กหรือคันใหญ่ รวมถึงขนาดตอนพับหรือตอนกางรถเข็น ทั้งหมดนี้ก็ควรพิจารณาร่วมกับ 3 ข้อที่ผ่านมาด้วยนะคะ
- น้ำหนักของรถเข็น
น้ำหนักรถเข็นก็ดูจะสร้างปัญหาให้กับคุณแม่ๆ ไม่น้อย ฉะนั้นคุณแม่ควรพิจารณาจากน้ำหนักด้วย หากรถเข็นน้ำหนักเยอะและคุณแม่ต้องไปกับลูกแค่สองคน อาจจะสร้างภาระให้คุณแม่ได้ ไหนจะพับรถเข็นหรือยกรถเข็นขึ้นรถ ลำบากแน่นอน ยกเว้นหากคุณแม่มีคนติดตามด้วยก็พอได้ แต่ทางที่ดีแอดมินก็แนะนำเป็นรถเข็นน้ำหนักเบาจะดีกว่านะคะ เพราะความแข็งแรงก็มีเหมือนกัน แต่สะดวกสบายกว่าค่า
- เข็นได้กี่ทิศทาง
ทิศทางการเข็นหากมองผิวเผินเหมือนไม่สำคัญ แต่หากลองพิจารณาให้ละเอียดขึ้นจะเห็นว่ารถเข็นที่เข็นได้สองด้านนั้นมีข้อสำคัญที่รถเข็นด้านเดียวไม่มี คือคุณแม่สามารถเข็นลูกในทิศทางที่ลูกหันหน้าเข้าหาเราได้ (เผื่อบางกรณีลูกไม่เห็นหน้าพ่อแม่อาจร้องไห้งอแง อีกอย่างพ่อแม่ก็ได้เห็นอริยาบทลูกด้วยว่าในขณะเข็นนั้นเขานอนสบายหรือไม่อย่างไร ก็จะรู้ได้ทันที) และที่สำคัญสุดในองศาการเข็นที่ลูกหันหน้าเข้าหาเรานั้นจะมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะจะมีพนักพิงด้านหลังคอยประคองรองรับแรงไว้ เช่นตอนเบรคกะทันหัน หรือตอนเข็นลงพื้นที่ต่างระดับ เป็นต้น
- เลือกให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์เรา
ทั้งหมดทั้งมวลก็ต้องลองดูอีกทีหนึ่งว่าไลฟ์สไตล์เราเป็นแบบไหน เช่นเดินทางบ่อย ไปโน่นมานี่ รถเข็นพับเล็กน้ำหนักเบาอาจจะตอบโจทย์กับไลฟ์สไตล์แบบนี้มากกว่า เป็นต้น
แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นก็ขึ้นอยู่กับคุณพ่อแม่จะตกลงคุยกันว่าแบบไหนตอบโจทย์การใช้งานตัวเองที่สุด
เราอาจไม่ต้องหาข้อดีทุกข้อ แต่เลือกฟังค์ชั่นที่ตอบโจทย์ในการใช้งานที่สุดก็เพียงพอแล้วค่ะ
หวังว่าบทความนี้จะช่วยให้คุณแม่ตัดสินใจในการเลือกรถเข็นเด็กได้นะคะ
– – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – – –
หรือหากสนใจตัวไหนรุ่นไหนเป็นพิเศษ สามารถทักแอดมินได้เลยนะคร้า…
เราเป็นร้านตัวแทนจำหน่ายที่ถูกต้อง มีบริการหลังการขาย
หรืออยากมาดูสินค้าตัวจริง ทดลองเข็น ทดลองให้น้องลองนั่ง ก็เชิญได้ค่า
พิกัดหน้าร้าน : ซอยพัฒนาการ 27- 29
เปิดบริการทุกวัน : เวลา 09.30-17.00
โทร : 0949516442
ไลน์ : @punnita
เว็บไซต์ : Click www.punnita.com