น้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับลูกน้อยตั้งแต่ชั่วโมงแรกที่ลูกลืมตาดูโลก เพราะน้ำนมจากอกแม่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์และสารอาหารมากมาย ทำให้ลูกเจริญเติบโตและมีพัฒนาการที่สมบูรณ์ตามวัย และยังช่วยสร้างภูมิต้านทานโรค ทำให้ลูกแข็งแรง ไม่ค่อยเจ็บป่วย การให้นมจากเต้ายังเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างคุณแม่และลูกน้อย ช่วยสร้างความรัก ความผูกพันได้เป็นอย่างดี แต่สำหรับคุณแม่มือใหม่หลาย ๆ ท่าน การให้นมลูกอาจไม่ใช่เรื่องง่าย แต่คุณแม่ไม่ต้องเป็นกังวลไป เพราะวันนี้ Punnita มีเคล็ดลับวิธีให้นมลูกอย่างถูกวิธีมาฝากค่ะ
4 ท่าอุ้มให้นมลูกสำหรับคุณแม่มือใหม่
การให้นมลูกด้วยท่าอุ้มที่เหมาะสมจะช่วยให้ลูกเข้าเต้า ดูดและกลืนน้ำนมแม่ได้ดี อีกทั้งทำให้คุณแม่ผ่อนคลาย สามารถให้นมได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่เมื่อยหรือเกร็ง และนี่คือ 4 ท่าอุ้มให้นมลูกที่คุณแม่มือใหม่ก็ทำตามได้ง่าย ๆ ค่ะ
-
ท่าลูกนอนขวางบนตัก
เป็นท่าพื้นฐานในการให้นมลูกโดยการอุ้มลูกไว้บนตัก เริ่มจากคุณแม่หาที่นั่งที่สบาย นั่งตัวตรง แล้วอุ้มลูกนอนขวางลำตัวแม่ให้ศีรษะลูกอยู่สูงกว่าลำตัวเล็กน้อย หรืออาจวางหมอนไว้บนตักเพื่อให้คุณแม่นั่งสบายขึ้น ช่วงท้ายทอยลูกจะวางอยู่บริเวณแขนของแม่ ใช้มือและแขนประคองตัวให้ลูกนอนตะแคงเข้าหาเต้านม และใช้มืออีกข้างพยุงเต้านมไว้เพื่อป้องกันการปิดกั้นจมูกของลูก ซึ่งท่านี้จะช่วยให้คุณแม่และลูกน้อยได้สบตาและสื่อสารกัน เป็นการสร้างสายสัมพันธ์และความรู้สึกใกล้ชิดกันระหว่างแม่และลูก
ท่านี้เหมาะสำหรับ:
- คุณแม่คลอดธรรมชาติที่ไม่มีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด
-
ท่าลูกนอนขวางบนตักประยุกต์
คล้ายกับท่าลูกนอนขวางบนตัก เพียงแต่สลับมือกัน โดยให้คุณแม่ใช้มือข้างเดียวกับเต้านมที่ต้องการให้ลูกประคองเต้านมไว้ เช่นหากให้นมลูกด้วยเต้าข้างขวา ก็ให้ใช้มือข้างขวาประคองเต้านม ส่วนมืออีกข้างจะใช้รองรับต้นคอและท้ายทอยของลูกแทน ท่านี้จะช่วยควบคุมการเคลื่อนไหวของศีรษะลูกได้ดี เหมาะสำหรับหัดลูกเข้าเต้า ช่วยให้ลูกอมหัวนม ไม่หันไปตามสิ่งเร้ารอบข้างและกัดดึงหัวนมไปด้วย อีกทั้งยังเป็นท่าที่ช่วยให้ตัวลูกไม่กดทับหน้าท้องหรือแผลผ่าตัด
ท่านี้เหมาะสำหรับ:
- คุณแม่ผ่าคลอด
- คุณแม่ที่มีน้ำนมมาก
- ทารกแรกเกิดหรือทารกคลอดก่อนกำหนด
- ทารกที่มีปัญหาในเรื่องการดูดนม
- ทารกที่เริ่มสนใจสิ่งรอบข้าง
-
ท่าอุ้มลูกฟุตบอล
ท่าอุ้มลูกฟุตบอลจะช่วยหลีกเลี่ยงการกดทับแผลผ่าคลอด เพราะตัวลูกจะไม่สัมผัสและทับแผลของคุณแม่ จึงเป็นท่าที่เหมาะสำหรับคุณแม่ผ่าคลอดและคุณแม่ที่มีลูกแฝดที่ต้องการให้นมลูกสองเต้าพร้อมกัน ท่านี้ทำได้โดยอุ้มลูกให้อยู่ในท่ากึ่งนอนหงายกึ่งนอนตะแคง คุณแม่กระชับตัวลูกแนบสีข้างของลำตัว ให้ขาของลูกชี้ไปทางด้านหลังของคุณแม่ ใช้มือประคองต้นคอและท้ายทอยลูกไว้ และให้ลูกดูดนมจากเต้าข้างเดียวกับมือที่ใช้ประคองลูก ส่วนมืออีกข้างใช้พยุงเต้านมไว้
ท่านี้เหมาะสำหรับ:
- คุณแม่ที่ผ่าคลอด
- คุณแม่ที่มีเต้านมใหญ่
- คุณแม่ลูกแฝด
- ทารกตัวเล็ก
- ทารกที่มีปัญหาในเรื่องการดูดนม
-
ท่านอน
เป็นอีกหนึ่งท่าให้นมที่ทำได้ง่าย สบาย และเหมาะสำหรับคุณแม่ที่ยังเจ็บแผลเย็บอยู่ เพียงจัดท่าให้คุณแม่และลูกนอนตะแคงหันหน้าเข้าหากัน คุณแม่ใช้หมอนหนุนศีรษะให้สูงสักเล็กน้อย จัดสะโพกให้ตรง งอเข่าเล็กน้อยในท่าสบาย ๆ ปากลูกอยู่ตรงกับตำแหน่งของหัวนม ใช้มือที่อยู่ด้านล่างประคองตัวลูกให้ชิดกับลำตัวแม่ หากไม่ถนัด อาจใช้ผ้าขนหนูหรือหมอนหนุนหลังลูกแทนการใช้แขน ส่วนมือที่อยู่ด้านบนใช้พยุงเต้านมให้หัวนมเข้าปากลูกในตอนแรกของการให้นม หากลูกดูดนมได้ถนัดแล้ว สามารถปล่อยมือได้
ท่านี้เหมาะสำหรับ:
- คุณแม่ผ่าคลอด
- คุณแม่ที่มีน้ำนมมาก
- คุณแม่ที่อ่อนเพลียจากการคลอดและต้องการการพักผ่อน
- การให้นมลูกตอนกลางคืน
วิธีสังเกตว่าลูกกินนมแม่ “ถนัดดี”
การที่ลูกได้รับน้ำนมอย่างเพียงพอจะช่วยให้พวกเขารู้สึกอิ่มและได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตและสร้างพัฒนาการที่ดีได้สมวัย ดังนั้น คุณแม่ควรต้องมั่นใจว่าลูกกินนมได้ถนัดดี ซึ่งอาจเช็คได้จากสัญญาณต่อไปนี้ค่ะ
- ลูกอ้าปากกว้างดี
- ลำตัวลูกอยู่ในแนวเส้นตรง
- คางของลูกจรดกับเต้านมแม่
- จมูกลูกไม่ถูกกดเบียดโดยเต้านม
- ปากลูกอมมิดทั้งหัวนมและด้านล่างของลานหัวนม
- ลูกเริ่มดูดทันทีที่เข้าเต้า จากนั้นค่อย ๆ ปรับจังหวะดูดแรงและหนักขึ้น
- ขณะดูดนม สังเกตเห็นขากรรไกรและใบหูของลูกขยับเล็กน้อยตามจังหวะการกลืน
วิธีสังเกตว่าลูกกินนมแม่ “อิ่มแล้ว”
ในการให้นมลูกอย่างถูกวิธี นอกจากจะดูว่าลูกน้อยกินนมได้ถนัดแล้ว คุณแม่ยังต้องดูให้เป็นว่าลูกกินนมอิ่มหรือยัง โดยสามารถสังเกตได้จากอาการและสัญญาณต่อไปนี้ค่ะ
- ปิดปาก
- ผลักนมออก
- ดูดนมช้าลงหรือหยุดดูด
- โก่งหลังและหันศีรษะออก
- มีท่าทีผ่อนคลายและเริ่มหลับ
น้ำนมแม่เป็นอาหารจากธรรมชาติและเปี่ยมด้วยคุณค่าทางโภชนาการอย่างครบถ้วน นอกจากประโยชน์ด้านสารอาหารและการตอบสนองความหิวของลูกน้อยแล้ว การให้นมแม่อย่างถูกวิธียังช่วยสร้างความรักและความผูกพันระหว่างแม่และลูก ช่วยกระตุ้นการผลิตน้ำนม ทำให้มีน้ำนมอย่างเพียงพอ และทำให้คุณแม่สามารถเผาผลาญพลังงาน ทำให้น้ำหนักกลับสู่ปกติได้เร็ว อีกทั้งยังลดปัจจัยเสี่ยงของการเกิดมะเร็งรังไช่และมะเร็งเต้านมได้อีกด้วยค่ะ
ดูสินค้าแม่และเด็กเพิ่มเติมได้ที่เว็บไซต์ www.punnita.com