มาทำความรู้จัก ระบบ isofix สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ขับขี่รถยนต์กันดีกว่าค่า
isofix คืออะไร
isofixคือ ระบบการติดตั้งคาร์ซีทมาตรฐานสากล เป็นมาตรฐานของ International Organisation for Standardisation ที่เป็นมาตรฐานบังคับที่ใช้กันอย่างแพร่หลายทั่วโลกทั้งในยุโรป ญี่ปุ่น และรวมถึงบ้านเรา แต่ในสหรัฐอเมริกา เรียกว่า LATCH หรือ Lower Anchors and Tethers for Children และในแคนาดาใช้ชื่อว่า Canfix หรือ Luas Lower Universal Anchorage System ซึ่งได้รับการยืนยันถึงความปลอดภัยระดับสูงสุด ติดตั้งได้ง่ายและรวดเร็วที่สุด โดยไม่ต้องใช้เข็มขัด
มีลักษณะเป็นแกนเหล็ก ที่ติดตั้งมาที่รถเเล้วจากโรงงานผู้ผลิตรถ ไม่สามารถติดเพิ่มได้
รถยนต์ยุโรปมักจะมีisofix ทุกรุ่น / ส่วนรถยนต์ญี่ปุ่น modelหลังปี 2014 มี isofix เกือบทุกรุ่น
ให้ท่านตรวจสอบที่รถของท่าน ง่ายๆ โดยดูว่ามีสัญลักษณ์ เหมือนภาพตัวอย่างนี้หรือไม่
หากไม่มี ให้เลือกคาร์ซีทที่ติดตั้งด้วยเบลท์รถยนต์ได้ แต่คาร์ซีทบางรุ่นติดตั้งได้ 2 ระบบ ซึ่งเป็นข้อดี
หากรถของท่านมีisofix ควรเลือกคาร์ซีท ที่มีระบบisofix
(แต่รถบางรุ่นทำisofixมาไม่ค่อยดีจมลงไปในเบาะเยอะกรณีนี้ควรเลือกisofix แบบ Latch)
ก่อนอื่นให้ดูที่รถเราก่อนว่า isofix รถเราถูกติดตั้งไว้อย่างไร จากประสบการณ์ถ้าเป็นรถยุโรปมักจะทำเหล็กยื่นไว้ชัดเจนติดง่าย ดังนั้นจะเลือก isofix แบบไหนก็ได้ไม่มีปัญหา
ส่วนรถญี่ปุ่นบางยี่ห้อ บางรุ่น ทำ เหล็กไว้ลึกลงไปจากเบาะค่อนข้างเยอะ เกือบ5ซม. ทำให้องศาการติดตั้งไม่ได้ ถ้าเลือก isofix แบบก้านไป อาจจะติดตั้งยากมาก หรือติดตั้งไม่ได้ค่ะ
คำแนะนำในการเลือกซื้อคาร์ซีท(Car seat)
คุณพ่อคุณแม่ กำลังมีคำถาม อยู่รึเปล่าคะ ว่า คาร์ซีท ยี่ห้อไหนดี
ก่อนอื่นเรามาดูสิ่งที่ต้องพิจารณาในการเลือกซื้อคาร์ซีทกันนะคะ
1.คาร์ซีท นั้นๆ ผ่านมาตรฐานสากล หรือไม่
มาตรฐานสากล จะมี มาตรฐานยุโรป ECE หรือ มาตรฐาน อเมริกา FMVSS / ASTM
2.ที่รถของเรา รองรับระบบ isofixหรือไม่
รถยนต์ยุโรปมักจะมีisofix ทุกรุ่น / ส่วนรถยนต์ญี่ปุ่น modelหลังปี 2014 มี isofix เกือบทุกรุ่น
3. ต้องการคาร์ซีทที่หมุนได้หรือไม่
คาร์ซีทหมุนได้ จะทำให้เรา วาง หรือ อุ้มเด็กออกจาก คาร์ซีท ได้ง่ายกว่าแบบหมุนไม่ได้
4. เราต้องการประหยัดงบประมาณ ซื้อครั้งเดียวจบหรือเปล่า?
ปกติแล้วถ้าต้องการซื้อคาร์ซีทให้คุ้ม รอบเดียวจบ คาร์ซีทนั้นมักจะใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด -12 ปี แต่มักจะหมุนไม่ได้
5. ไม่ควรเลือกซื้อคาร์ซีท มือสอง เด็ดขาด
เพราะเราไม่รู้เลยว่าคาร์ซีทนั้นผ่านการใช้งานอย่างไรมาบ้าง ถ้าหมดอายุเเล้ว แล้วนำมาใช้เวลาเกิดอุบัติเหตุจะไม่สามารถช่วยป้องกันลูกเราได้เลยจากแรงกระเเทก
และท่านรู้หรือไม่คะ ว่าคาร์ซีท มีหมดอายุด้วยนะคะ บางยี่ห้อ จะระบุ วันหมดอายุที่ตัวคาร์ซีทเลย บางยี่ห้อจะ กำหนดเป็น 4ปี / 5 ปี / 8 ปี จากวันผลิต
6.กลัวลูกไม่ยอมนั่งคาร์ซีท กลัวซื้อเเล้วไม่คุ้ม
บอกได้เลยว่า ความปลอดภัยสำหรับลูกรัก ไม่มีคำว่า คุ้ม ไม่คุ้มนะคะ เรามั่นใจได้หรือไม่ว่า คนขับรถบนท้องถนน 100% จะขับรถดี ขับรถระวัง ไม่มีเฉี่ยวชนเราจนเกิดอุบัติเหตุ
เราต้องมีคาร์ซีทให้ลูกนั่ง ตั้งแต่วันแรกที่ออกจากโรงพยาบาล เลือกคาร์ซีทที่ใช้ได้ตั้งเเต่แรกเกิด เด็กยอมนั่งแน่นอนค่ะ ยิ่งเวลารถเคลื่อนตัวเค้าจะหลับดีเลย เหมือนนอนในเปลไกว
กรณีเด็กไม่ยอมนั่งจะเกิดขึ้นตอนเริ่มโตค่ะ ร้องโวยวายอยากจะออกจากคาร์ซีทถ้าเริ่มนั่งนานๆแล้วเบื่อ จำไว้นะคะ ถ้าเค้าร้องเเล้วเราเอาเค้าออกครั้งเเรก เค้าจะรู้เลยว่าทำแบบนี้เเล้วได้ออก เเล้วมันจะเกิดขึ้นอีกค่ะ
เพราะฉะนั้น อย่าอุ้มเค้าออกมาใจแข็งไว้ค่ะพยายามหาของเล่นหลอกล่อทุกสิ่งอย่างเตรียมขึ้นรถไปให้พร้อมทุกครั้ง วินัยฝึกได้ค่ะ เด็กสามารถร้องต่อเนื่องได้ถึงครึ่งชั่วโมง แต่เราทนฟังเค้าได้ไม่ถึง 1 นาทีค่ะ ปล่อยให้เค้าร้องสักครู่ เดี๋ยวเค้าเหนื่อยเค้าก็หยุดร้องเองค่ะ แล้วจะค่อยๆร้องน้อยลงจนเลิกร้องและรู้ว่าต้องนั่ง คุณแม่ถึงจะชมหรือให้รางวัล
7. ควรเลือกซื้อคาร์ซีท จากร้านที่เป็นตัวแทนที่ถูกต้องจากศูนย์ไทย
เพราะ หากท่านซื้อคาร์ซีทแล้วมีปัญหา ต้องการเคลม ศูนย์ สามารถดูแลให้ท่านได้ แต่หากท่านซื้อของหิ้วหากมีปัญหาขึ้นมาไม่สามารถเรียกร้องอะไรได้เลยจากตัวแทนศูนย์ที่ประเทศไทยค่ะ
เลือกซื้อคาร์ซีทอย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัยของลูกน้อยและเพื่อให้คุณพ่อคุณแม่มั่นใจในการขับขี่มากขึ้นค่ะ
ผู้จัดจำหน่าย และให้คำปรึกษา คาร์ซีท คุณภาพ มาตราฐาน สากล
Click เพื่อเข้าสู่เวบไซท์